ค้นหาบล็อกนี้

Powered By Blogger











ควันหลงจากค่าย The One

แบ่งปันโดย Panya Chitmedha 26 กันยายน 2552 0 ความคิดเห็น

รูปใครบ้างดูเอาเอง....


อิ๋ว... สาวเรียบร้อย

บิว... ผมทรงเก่า

น้องเอ็ม... ผมทรงเม่น

อันนี้ดูยังไงก็... ส้ม (เขียวหวาน)

อ้น... เหมือนมาก

พี่อาร์ท ข๊าว... ขาว มาพร้อมรถตู้เขียว

เก่ง... สาวเกินวัย

นิค... วาดเอง ระบายเองเลยดูดี

เอฟ... ใครคิดเนี่ยช่างมีจินตนาการ

พี่น้อย!!! สุดยอด (สื่อมากๆ)

เจ๊ไหม... รักบ้านเกิด

กิ่ง... ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตัวอะไร

พี่วิป... ทำไมต้องเป็นตัวนี้เนี่ย เป็นอะไรกันไปหมด

พี่ปอ... ไม่มีคำบรรยาย

พี่นัท & พี่โบว์ มันเหมือนกับ...

น้องฝน & น้องออย ดูกันเอาเอง

พี่กวาง... ในรูปช่างผอม สูง

พี่ม้า... Dance กระจาย

น้องนัท... โรงแรมหลุยส์ฯ

พี่หยอง... เหมือนอาจารย์ที่ปรึกษาเลย

น้องจ๋า หรือ จี๋จ้า...

พี่อั๋น... เท่ระเบิด

สวัสดีทุกๆ คน พอดีคุณพ่อของน้องฝน (อ.ประภพ) ทำภาพที่เดินทางอิสราเอลไว้ เพื่อนๆ อย่าลืมเข้าไปดูนะ... เห็นมีคนเล่าให้ฟังว่า พวกอาจารย์ไปเยี่ยมชมสถานที่ที่เป็นห้องชั้นบน ที่พระวิญญาณลงมาในกิจการฯ บทที่ 2 ด้วย น่าตื่นเต้นดี เยี่ยมชมได้ที่ http://ppexplore.blogspot.com

ภาพตัวอย่าง

รูปเครื่องใช้ในวิหารที่สถาบันพระวิหารหลังที่สามทำขึ้นมาใหม่

ทางเดินไปสำรวจเส้นทางที่พระเยซูแบกไม้กางเขนและไปถูกตรึงตาย

[History Channel] - Seven Signs of Apocalypse

แบ่งปันโดย KU Christian 19 กันยายน 2552 0 ความคิดเห็น





สัญญาณ 7 อย่างที่ชัดเจน มนุษย์จะถูกทำลายโดยโรคระบาดร้ายแรง ภาวะความอดอยาก และแผ่นดินไหว... ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีดำและมหาสมุทรจะกลายเป็นสีเลือด... พวกต่อต้านพระเยซูคริสต์จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อทำสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างเทพ และปิศาจ สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือ

ผู้เชี่ยวชาญตีความคำพยากรณ์อันทรงอิทธิพลนี้และได้ข้อสรุปอันน่าสะพรึงว่า ปัจจุบันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าหายนะเหล่านี้สามารถเกิดขึ้น ได้จริง ในบรรดาดวงดาวที่ตกลงจากฟากฟ้าหลายพันดวง หนึ่งในนั้นอาจมีหนึ่งดวงที่แยกตัวออกจากกลุ่มและมุ่งหน้ามายังโลก โรคระบาดตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิลอาจหมายถึงโรคไข้หวัดนกที่อาจจะคร่า ชีวิตผู้คนนับล้าน น้ำทะเลในมหาสมุทรที่จะกลายเป็น สีเลือดอาจเกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ที่ปล่อยพิษร้ายอันมีผลต่อเยื่อหุ้มประสาท ซึ่งมีผลร้ายแรงเทียบเท่ากับแก๊สพิษที่ใช้

ดาวน์โหลดวิดีโอ | Part 1 | Part 2 | Part 3 | Part 4 | Part 5 | Part 6 | Part 7 | Part 8

Nick Vujicic หัวใจแกร่ง แม้ไร้แขนขา

แบ่งปันโดย KU Christian 16 กันยายน 2552 0 ความคิดเห็น


Nick Vujicic นิค วูจิซิค เป็นชาว ออสเตรเลีย เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1982 จากพ่อแม่ชาวเซอร์เบียนซึ่งอุทิศตนให้คริสต์ศาสนา — เขาเกิดมาไม่มีแขนทั้งสองข้าง มีขาสั้นๆ ข้างเดียวที่มีนิ้วโป้งสองนิ้วเท่านั้น

แทนที่จะมัวหมกมุ่นสงสารตัวเอง หรือโกรธเกรี้ยวผู้คนรอบข้างด้วยเหตุผลต่างๆ นานาของ “ความไม่ยุติธรรม” (Why me?) เขากลับบอกพ่อแม่ว่าเขาอยากใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องการให้ใครมาดูแล หรือปฏิบัติต่อเขาอย่างพิเศษ — แล้วเขาก็ใช้ชีวิตปกติ ไปโรงเรียนสามัญเรียนร่วมกับเพื่อนที่มีร่างกายสมบูรณ์ ผู้คนต่างมองเขาอย่างประหลาดใจ โดยที่ไม่ได้ตระหนักเลยว่าสิ่งที่พวกเขาคิดกับความเป็นจริงนั้น เป็นคนละเรื่องเลย เขาเรียนจบทางบัญชี และปัจจุบันเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจที่เดินรอบโลก เพื่อพูดกับเด็ก-วัยรุ่นที่มีความคับข้องใจ ไม่พอใจ เป็นตัวอย่างที่มีชีวิต แสดงให้เห็นว่าที่แต่ละคนมีนั้น ยิ่งใหญ่ขนาดไหน จะทุกข์ร้อนอะไรนักหนา

ผมชื่อ นิค วูจิซิค และผมขอมอบสิ่งดีต่าง ๆ ให้เป็นของพระเจ้าสำหรับโอกาสการเป็นพยานของผมที่จับต้องหัวใจของคนนับแสนทั่วโลก!

ผมเกิดมาโดยที่ไม่มี แขนขาและหมอก็หาคำอธิบายทางการแพทย์ไม่ได้สำหรับ "ข้อบกพร่อง" จากการกำเนิดนี้ อย่างที่คุณน่าจะจินตนาการได้ว่าผมต้องเจอกับความท้าทายและอุปสรรคมากมาย

"คิดซะว่ามันเป็นความรู้สึกเป็นสุขอันบริสุทธิ์เถิดพี่น้อง เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องเจอกับการทดลองในหลายรูปแบบ"

...ให้ถือ ว่าความเจ็บปวด ความทุกข์ยาก และการต่อสู้ดิ้นรนของเราเป็นความรู้สึกอันเป็นสุขงั้นเหรอ? ด้วยความที่พ่อแม่ของผมเป็นคริสเตียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อของผมที่เป็นนักเทศน์ในโบสถ์ พวกเค้ารู้ซื้งในคำพูดนั้นเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม เช้าวันหนึ่งของวันที่ 4 ธันวาคม ปี 1982 ที่เมืองเมลเบิร์น
(ประเทศออสเตรเลีย) สองคำสุดท้ายที่อยู่ในใจของพ่อแม่ผมก็คือ "สรรเสริญพระเจ้า!"

ลูกชายคนแรกของพวกเขาเกิดมาไม่มีแขนขา! ไม่มีคำเตือนใด ๆ หรือแม้แต่เวลาให้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ หมอก็ตกใจและไม่มีคำตอบใด ๆ เลย! ยังคงไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ใด ๆ ที่จะอธิบายได้ว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น และตอนนี้นิคมีทั้งน้องชายและน้องสาวที่เกิดมาเหมือนกับเด็กปกติคนอื่น ๆ

คนทั้งโบสถ์เศร้าโศกกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับการเกิดมาของผม และพ่อแม่ผมก็รู้สึกไปกับเรื่องเหล่านั้น ทุกคนถามว่า "ถ้าพระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความรัก ถ้างั้นทำไมพระองค์ถึงยอมให้สิ่งเลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่กับใครคนอื่น แต่กับคริสเตียนที่ทุ่มเทแบบนี้" พ่อผมไม่คิดว่าผมจะมีชิวิตอยู่ได้นานนัก แต่ผลการทดสอบกลับบอกว่าผมเป็นเด็กผู้ชายแข็งแรง เพียงแค่แขนขาหายไปเท่านั้นเอง

พ่อแม่ผมมีความกังวลอย่างมากและแสดงให้ เห็นถึงความกลัวว่าชีวิตแบบไหนกันนะที่ผมจะเติบโตขึ้นมา ซึ่งมันก็เข้าใจได้อยู่หรอก แต่ว่าพระเจ้าก็ให้ความเข้มแข็ง สติปัญญา และความกล้าแก่พวกท่านในการที่จะผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ในช่วงปีแรก ๆ และไม่นานหลังจากนั้นผมก็โตพอที่จะไปโรงเรียนได้

กฎหมาย ในประเทศไม่อนุญาตให้ผมได้เข้าโรงเรียนที่ดีที่สุดเนื่องจากสภาพความบกพร่อง ทางร่างกายของผม แต่พระเจ้าก็ทำเรื่องมหัศจรรย์และให้พลังแก่แม่ผมในการที่จะต่อสู้กับกฎหมาย เพื่อให้มันเปลี่ยนไป ผมเป็นคนหนึ่งในนักเรียนที่พิการรุ่นแรกที่ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนในระดับ หน้า

ผม ชอบไปโรงเรียนและพยายามที่จะมีชีวิตเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่ผมก็ได้รับรู้ในปีแรก ๆ ของการไปโรงเรียนถึงเวลาที่รู้สึกไม่สบายใจอันเกิดจากการถูกปฎิเสธ รู้สึกแปลกแยกและถูกล้อเลียนจากความแตกต่างทางร่างกายของผม เป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะชินกับความรู้สึกนั้น แต่ด้วยการสนับสนุนของพ่อแม่ ผมเริ่มที่จะพัฒนาทัศนคติที่ดีและคุณค่าที่ช่วยให้ผมก้าวผ่านเวลาแห่งความ ท้าทายนั้น

ผมรู้ ว่าภายนอกผมต่างจากคนอื่นแต่ข้างในนั้นผมก็เหมือนกับทุกคนแหละ มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกแย่มาก ๆ จนไม่อยากไปโรงเรียนเพื่อที่จะไม่ต้องไปเจอเรื่องแย่ ๆ พวกนั้น แต่ผมก็ได้รับการชูใจจากพ่อแม่ในการที่จะไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น และให้เริ่มหาเพื่อนโดยการไปพูดคุยกับเด็กบางคน ไม่นานนักเด็กนักเรียนเหล่านั้นก็รู้ว่าผมก็เหมือนพวกเขานั้นแหละ และจากตรงนั้น พระเจ้าก็อวยพรผมในการพบเพื่อนใหม่

มีบางเวลาที่ผมรู้สึก หดหู่และโกรธเกรี้ยวเพราะผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ผม หรือไม่สามารถโทษใครได้สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไปโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์และได้เรียนรู้ว่าพระเจ้ารักเราทุกคนและ พระองค์ทรงห่วงใยเรา ผมก็เข้าใจความรักในแบบเด็ก ๆ แต่ผมไม่เข้าใจว่า ถ้าพระเจ้ารักผม ทำไมพระองค์ถึงทำให้ผมเป็นแบบนี้? เป็นเพราะว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า? ผมคิดว่าผมต้องทำอะไรผิดแน่เลยเพราะจากเด็กทุกคนในโรงเรียน มีผมคนเดียวที่ประหลาด ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นภาระของคนรอบ ๆ ตัวผม และถ้าผมยิ่งตายเร็วเท่าไหร่ ทุกคนก็คงสบายขึ้นเท่านั้น ผมต้องการที่จะจบความเจ็บปวดและจบชีวิตนี้ด้วยอายุเพียงน้อยนิด แต่ผมก็ต้องขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง สำหรับพ่อแม่และครอบครัวที่อยู่ตรงนั้นเพื่อผมตลอดเวลาเพื่อที่จะทำให้ผม รู้สึกดีและเข้มแข็ง

เนื่องจากการต้องดิ้นรนใน ด้านอารมณ์ของผม ผมต้องเจอกับการกลั่นแกล้ง การเคารพตัวเอง และความโดดเดี่ยว พระเจ้าได้ปลูกฝังความหลงไหลในการแบ่งปันเรื่องราวและประสบกาณ์ของผมเพื่อ ช่วยเหลือคนอื่นในการรับมือกับความท้าทายใด ๆ ก็ตามที่พวกเขาต้องเจอในชีวิตและยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนเรื่องเหล่านั้นเป็น พระพร

เพื่อหนุนใจและดลใจให้ผู้อื่นใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ และไม่ยอมให้สิ่งใดเข้ามาขวางความหวังและฝันของพวกเข้าได้
บทเรียนหนึ่งในเรื่องแรก ๆ ที่ผมได้เรียนรู้ก็คือการที่จะไม่ทึกทักเอาเอง

"เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง..." (รม.8:28) คำพูดนั้นโดนใจผมมากและพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่า โชค หรือความบังเอิญที่ทำให้สิ่ง "เลวร้าย" นี้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา

ผมได้พบกับความสงบอย่างสมบูรณ์ในการได้ รู้ว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดเกิดขึ้นกับเราถ้าพระองค์ไม่มีจุดหมายที่ ดีสำหรับเราทุกคน ผมอุทิศทั้งชีวิตของผมให้กับพระเจ้าเมื่อผมอายุ 15 หลังจากได้อ่าน ยอห์น บทที่ 9 พระเยซูกล่าวว่าเหตุผลที่คนตาบอดเกิด มาตาบอดก็เพราะ "เพื่อว่างานของพระเจ้าจะได้รับการสรรเสริญผ่านทางคนนั้น" ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าพระเจ้าจะรักษาผมเพื่อที่ผมจะได้เป็นพยายานอันยิ่งใหญ่ ให้กับพลังอันดีเลิศของพระองค์ หลังจากนั้นผมก็ได้รับสติปัญญาที่จะเข้าใจว่าถ้าเราอธิฐานเพื่อสิ่งใด ถ้าสิ่งนั้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นในเวลาของพระองค์ ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้เกิดขึ้น ผมก็รู้ว่าพระองค์มีสิ่งที่ดีกว่าให้กับผม ตอนนี้ผมได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการใช้ผมในสิ่งที่ผมเป็นและเป็น สิ่งที่คนอื่นไม่มี

ตอนนี้ผมอายุ 23 ปี (อายุในเวลานั้น) และสำเร็จปริญญาตรีด้านการค้า เอกการวางแผนด้านการเงินและบัญชี ผมยังเป็นนักพูดให้กำลังใจและรักที่จะออกไปข้างนอกและแบ่งปันเรื่องราวของผม และเป็นพยาน ณ ที่ใดก็ตามที่โอกาสเป็นใจ ผมได้พัฒนาการพูดเพื่อให้เกี่ยวโยงกับการให้กำลังใจนักเรียนผ่านทางหัวข้อ ที่เป็นเรื่องท้าทายสำหรับเด็กวัยรุ่นในสมัยนี้ นอกจากนั้นผมยังเป็นนักพูดในภาคธุรกิจอีกด้วย

ผมมี ความรักในการยื่นมือออกไปช่วยเยาวชน และการทำตัวเองให้ว่างเพื่อสิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าอยากให้ผมทำ และที่ใดก็ตามที่พระองค์ทรงนำ ผมตาม

ผม มีความฝันและเป้าหมายมากมายที่ผมตั้งไว้เพื่อที่จะทำให้สำเร็จในชีวิตนี้ ผมอยากจะเป็นพยานที่ดีที่สุดที่ผมจะเป็นได้สำหรับความรักและความหวังของพระ เจ้า อยากเป็นนักพูดให้กำลังใจในระดับสากล และเพื่อถูกใช้เป็นภาชนะทั้งในเรื่องของคริสเตียนและเรื่องอื่น ๆ ผมอยากมีอิสระทางการเงินเมื่ออายุ 25 ผ่านทางการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อออกแบบรถสำหรับผมที่จะขับได้และอยากได้รับการสัมภาษณ์และแบ่งปันเรื่อง ราวของผมผ่านทางรายการ "โอปราห์ วินฟรี โชว์"!

การได้เขียนหนังสือหลาย เล่มที่ติดอันดับขายดีที่สุดก็เป็นหนึ่งในความฝันของผม และผมหวังว่าจะเขียนหนังสือเล่มแรกให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ หนังสือเล่มนี้จะมีชื่อว่า "No arms, No legs, No worries"

ผม เชื่อว่าถ้าคุณมีความปรารถนาและความหลงไหลที่จะทำสิ่งใด และถ้าสิ่งนั้นเป็นประสงค์ของพระเจ้า คุณก็จะทำสำเร็จในเวลาที่เหมาะสม จากการเป็นมนุษย์นี้เอง ทำให้เรามักจะจำกัดตัวเองโดยไร้เหตุผล! สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือการจำกัดความสามารถของพระเจ้าใตการกระทำทุกสิ่ง เราจำกัดพระเจ้าลงใน "กล่อง"

สิ่งที่ดีเกี่ยวกับพลังของพระเจ้าก็คือ การที่ถ้าเราต้องการที่จะทำสิ่งใดก็ตามเพื่อพระองค์ แทนที่จะสนใจความสามารถของเรา ให้เพ่งความสนใจไปที่เวลาที่เรามีที่จะให้พระองค์ เพราะเรารู้ดีว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าทำผ่านเรา และเราไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลยหากปราศจากพระองค์ แต่เมื่อเราทำตัวให้ว่างเพื่องานของพระเจ้าแล้ว ลองเดาดูซิว่าความสามารถของใครที่เราจะพึ่งพา? ของพระเจ้าไง!


ดาวน์โหลดวิดีโอ |Part1 | Part2 | Part3 | Part4 | Part5

ติดตามได้ในสเปซของนิค วูจิซิค http://www.myspace.com/lifewithoutlimbs

การแสดงเปิดKU TheOneCamp

แบ่งปันโดย KU Christian 15 กันยายน 2552 0 ความคิดเห็น


ดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอ | Part1 | Part2

Format : AVI (XVID)
File size : 144 MB
Duration : 15mn 5s
Bit rate : 1337 Kbps
Width : 640 pixels
Height : 360 pixels
Display aspect ratio : 16/9
Frame rate : 25.000 fps

เว็บค้นหาคำตอบอัจฉริยะ

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 10 กันยายน 2552 0 ความคิดเห็น





เว็บนี้สามารถเสิร์จหาสิ่งที่เราอยากหาคำตอบได้หลายแขนง สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิงด้านต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น งานวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ, งานด้านฟิสิกส์, งานด้านเคมี, งานด้านวัสดุ+วัตถุดิบ, วิศวกรรมศาสตร์, ดาราศาสตร์, ภูมิศาสตร์, ชีววิทยา, เทคโนโลยี, การขนส่ง, วิทยาการคอมพิวเตอร์, เว็บและระบบคอมพิวเตอร์, อุตสาหกรรม, การเงิน, วันที่และเวลา, ธรณีวิทยา, แผนที่, สังคมศาสตร์, ภูมิอากาศ, สุขภาพและการแพทย์, อาหารและยา, ดิกชันนารี, วัฒนธรรมและสื่อ, ชีวประวัติ, การศึกษา, หน่วยงานและองค์กร, กีฬา, ดนตรี , สี


ภาพ Ku The One Camp

แบ่งปันโดย KU Christian 0 ความคิดเห็น



ดาวน์โหลดรูป | Part 1 | Part 2 | Part 3


บล็อกนี้ สร้างขึ้นเพื่อสื่อสาร หนุนใจ และแบ่งปันสิ่งดีแก่กัน เพื่อให้เป็นพรแก่พี่น้อง KU และพี่น้องทุกๆคนครับ/คะ