บทความทั้งหมด

ค้นหาบล็อกนี้

Powered By Blogger











วิดีโอ แครอลิ่งใต้แสงอาทิตย์

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 30 ธันวาคม 2553 0 ความคิดเห็น


E-Book : At the Origins of Christian Worship

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 24 พฤศจิกายน 2553 0 ความคิดเห็น


At the Origins of Christian Worship :
The Context and Character of Earliest Christian Devotion


Publisher: Wm. B. Eerdmans Publishing Company | October 2000
ISBN: 0802847498 | PDF | 138 pages | 4.4 MB

An informative look at the beginnings of Christian worship.

Christian worship has a long and complex history. This volume deepens our understanding of early Christian worship by setting it within the context of the Roman world in which it developed.

Exploring this formative period in church history, Larry Hurtado highlights the two central characteristics of earliest Christian worship: its exclusive rejection of the gods of the ancient world and its inclusion of Christ with God as the focus of devotion. His excellent study also offers reflections on Christian worship today, suggesting ways contemporary worship can be enriched and corrected by drawing on the early Christian worship traditions.

Both historical and practical, this volume will be valuable to readers ranging from church pastors and worship leaders to individuals interested in the origins of Christian faith and practice.


วิดีโอ วันอันประทับใจ ใน Forward FC Camp [HD]

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 12 พฤศจิกายน 2553 0 ความคิดเห็น


ภาพ ค่ายเกษตร 2010 "FORWARD FC Camp"

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 04 พฤศจิกายน 2553 0 ความคิดเห็น



TRAILER - FORWARD FC

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 15 ตุลาคม 2553 0 ความคิดเห็น

เชิญทุกท่าน 29-31 ตุลาคมนี้ แล้วพบกัน


วิดีโอ ค่าย KU 2010 FORWARD FC ตอน SURVEY

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 09 ตุลาคม 2553 0 ความคิดเห็น


และสัปดาห์ในการสอบนี้อยากจะนำเสนอ
สารคดีที่แสดงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่แท้จริง

วิดีโอเรื่องสั้น คืนนี้คือคืนดี

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 25 สิงหาคม 2553 0 ความคิดเห็น



.....................................................................03/02/2006

ภาพ ประจำวันอาทิตย์ที่8สิงหา2010

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 09 สิงหาคม 2553 0 ความคิดเห็น


E-Book : A Visual History of the English Bible

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 08 กรกฎาคม 2553 1 ความคิดเห็น


Visual History of the English Bible, A:
The Tumultuous Tale of the World's Bestselling Book

Publisher: Baker Books | 2008-09-15 | ISBN: 080101316X | PDF | 352 pages | 19 MB

With a full color layout and over one hundred illustrations, A Visual History of the English Bible covers the fascinating journey of the Bible from the pulpit to the people. Renowned biblical scholar Donald L. Brake invites readers to explore the process of transformation from medieval manuscripts to the contemporary translations of our day. Along the way, readers will meet many heroes of the faith--men and women who preserved and published the Scriptures, often at risk of their own lives.

From Wycliffe and Tyndale to King Henry VIII and the Geneva Bible, from the Bishop's Bible and the King James Version to the American Revolution and the Civil War, this tumultuous tale is history come alive. This book is perfect for history buffs, bibliophiles, and anyone interested in the colorful account of the world's most popular book.

YouTube - Judy Jacobs - Days of Elijah (No God Like Jehovah)

แบ่งปันโดย Panya Chitmedha 07 กรกฎาคม 2553 0 ความคิดเห็น



ดูแล้วประทับใจมาก สุดยอดจริงๆ

วิดีโอเรื่องสั้น BB คือคำตอบ

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 01 กรกฎาคม 2553 0 ความคิดเห็น



.....................................................................19/07/2006

แบ่งปัน

แบ่งปันโดย Karuna P. 16 มิถุนายน 2553 3 ความคิดเห็น

วันนี้ขอบคุณพระเจ้าที่หนุนใจมากด้วยบทเพลง พระเจ้าทรงดูแลเราอยู่เสมอแม้ว่าเราจะไม่รู้ตัวก็ตาม แม้ว่าเราจะกลุ้มใจและคิดถึงปัญหาของตัวเองโดยลืมวางใจในพระเจ้าไป แต่พระเจ้าก็ยังมีพระเมตตา ยังรักเรา ห่วงใยอาทรเรา

ในขณะที่หนูกังวลและเครียดอยู่นั้น ตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ ก็เปิดหนังสือเพลงไปเจอเพลงหนึ่ง โดยไม่ได้คิดอะไร โดยไม่ได้คาดหวังอะไร ก็ร้องเพลงตามเนื้อไปอย่างนั้น แล้วก็ทราบเลยว่าเป็นเพลงที่พระเจ้ามาหนุนใจหนู ปลอบโยน และให้กำลังใจ เตือนให้รู้ว่า พระเจ้าอยู่ตรงนี้นะ ร้องเพลงไปก็น้ำตาไหลไป โอย ไม่ได้ร้องไห้มานานแล้วด้วยสินะ แต่ขอบคุณพระเจ้า



มีสหายเลิศคือพระเยซู
D G D Bm Em-A

1. มีสหายเลิศคือพระเยซู ผู้ได้ แบกบาปทุกข์ของเรา
D G Abdim D A D

มีอะไรรบกวนให้โศก เศร้า จงรีบเร่งนำมาเข้าเฝ้า
A D D7 G F#m Em- A

เหตุไฉนเราลืมพระเจ้าบ่อย ใจเป็นทุกข์โดยไม่มีเหตุ
D G Abdim D A D

เพราะการไหว้วอนเราได้ท้อ ถอย ไม่ได้ทูลผู้ทรงฤทธิ์เดช


มีสิ่งใดที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่ว่าเรื่องเล็ก...หรือเรื่องใหญ่... เราสามารถทูลบอกพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ได้


D G D Bm Em-A
2. เราเป็นทุกข์เพราะถูกล่อลวงหรือ เคยเดือนร้อนลำบากหรือเปล่า
D G Abdim D A D

ไม่ควรย่อท้อหรือใจห่อ เหี่ยว แต่เร่งนำทุกสิ่งเข้าเฝ้า
A D D7 G F#m Em-A

เราจะหาสหายที่วางใจ แก้ความทุกข์ลำบากเราได้
D G Abdim D A D

เพราะพระเยซู ทราบความทุกข์ นั้น จงทูลทุกสิ่งต่อพระองค์
D G D Bm Em-A


พระเยซูทรงทราบทุกสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเรา เรารู้สึกอย่างไร เราเผชิญปัญหาหนักหนาแค่ไหน พระองค์ทรงรับรู้ แม้แต่เส้นผมของเรา ที่เรายังไม่ใส่ใจ พระองค์ยังทรงนับไว้หมดทุกเส้นแล้ว เห็นไหม พระเยซูรักเราแค่ไหน


3. เมื่อเหน็ดเหนื่อยเพราะแบกภาระหนัก เหลือกำลังและเราหมดแรง
D G Abdim D A D

ผู้ประเสริฐทรงช่วยศิษย์ที่ รัก ให้เราอ้อนวอนต่อพระองค์
A D D7 G F#m Em-A

ถ้าสหายดูหมิ่นเกลียดชังท่าน จงเร่งนำทุกสิ่งเข้าเฝ้า
D G Abdim D A D

แล้วทรงยื่นพระหัตถ์รับท่าน ไว้ ท่านจึงได้รับความบรรเทา

หากหมดแรง มีภาระหนัก เข้าไปทูลกับพระเยซู พระเยซูก็จะทรงช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน


ทุกประโยค ทุกบรรทัดนั้นมันตรงกับความรู้สึกที่หนูมีอยู่ในขณะนั้นเลย และทำให้ตระหนักว่า ทำไมลืมพระองค์ล่ะ พระเยซูยังอยู่ตรงนี้นะ


ตอนนี้ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หนูได้เผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง ที่แม้มันโหดร้าย แต่เราคริสเตียนก็จะยืนหยัด แล้วแม้จะเป็นคนตัวเล็กๆ แต่พระเจ้าซึ่งอยู่ในหนูนั้นยิ่งใหญ่

และสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้นจะทำให้หนูเติบโตมากขึ้นด้วย




"14 ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้ 15 เมื่อจุดตะเกียงแล้ว ไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น 16 ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์" (มัทธิว 5:14-16)


เว็บวิดีโอเรื่องราวพระเยซู

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 09 มิถุนายน 2553 1 ความคิดเห็น


เว็บไซท์นี้ สำหรับให้คนที่อยากรู้จักพระเจ้าได้ศึกษาพระกิตติคุณ (อันเดียวกับที่แจกในโบสถ์ แต่ในคุณภาพขนาดHi-Def) มีหลายภาษามาก(เกือบหมดโลกเลยมั้ง) ที่สำคัญมีภาษาถิ่นในไทยด้วย

อันนี้หน้าเว็บ
เขาให้เลือกภาษาที่อยากชม ก็คลิกไป



*มีภาษาเหนือ ภาษาใต้ด้วย*

ภาพ เลี้ยงส่งกวาง (ไปมหิดล)

แบ่งปันโดย KU Christian 08 มิถุนายน 2553 2 ความคิดเห็น



คุณสมอง

แบ่งปันโดย Karuna P. 03 มิถุนายน 2553 1 ความคิดเห็น

อยากบังเอนทรี่เก่า เขิน>///< เขียนซะเยอะ เลยเขียนอันใหม่กลบ XD



อืม เอาเรื่องอะไรดี คิดๆๆ ....อ้อ จะเปิดเทอมแล้วนี่นา งั้นเรื่องนี้ดีกว่า>>>เคล็ดลับดีๆที่ช่วยทำให้สมองพร้อมสำหรับการเรียนรู้ เย้~




เคล็ดลับนี้มาจากหนังสือ 'อัจฉริยะเรียนสนุก'





พร้อมรับชมได้เลยฮ่า






ทาดา!!





talentedapps.wordpress.com



  • เรียนดีได้ไฉน หาใช่เพียงแค่พันธุกรรม


พันธุกรรมเป็นแค่ส่วนเดียวที่เป็นปัจจัยทำให้สมองดี แต่สิ่งที่สำคัญมากๆๆก็คือการฝึกฝน การฝึกฝนเท่านั้นที่ครองโลก วะฮ่าๆ ฉันไม่ได้เป็นคนที่จำเก่งเลย(ขี้ลืม-..-) แต่อาศัยความขยัน อ่านๆๆเข้าไป ในที่สุดมันก็จำได้ และยิ่งทำไปเรื่อยก็รู้สึกว่าเรียนรู้การจำมากขึ้น




งืม แล้วมีอะไรอีก อ้อ อย่างเรื่องเต้นลีดฯ ก็อาศัยการฝึกฝนเช่นเดียวกัน จากที่เมื่อก่อนอะไรแนวขยับเขยื้อนร่างกายเนี่ยไม่ถนัดสุดๆ(ร่ายกายไม่สัมพันธ์กัน55) แต่พอฝึกไปแล้วมันก็มีทักษะมากขึ้น เลเวลอัพ เย้




forums.comicbookresources.com



  • นอนเยอะๆช่วยให้จำแม่น



วู้วๆๆ *โบกสะบัดพู่* ถูกจายยค่า สมองส่วนที่ทำหน้าที่บันทึกความจำจะทำงานตอนหลับฮ่ะ มันจะโอนข้อมูลที่ได้มาในวันนั้นเข้าสู่ความจำระยะยาว ดังนั้น มานอนให้ครบ 8 กันเถอะ >:D



  • อารมณ์ดีก็ช่วยนะจ๊ะ

สมองส่วนที่ใช้ควบคุมอารมณ์มีผลกระทบกับสมองส่วนการเรียนรู้ วันไหนอารมณ์ดี กินอิ่มหมีพีมัน ก็จะเรียนอย่างมีความสุขและรู้เรื่อง แต่วันไหนกำลังเซ็งเป็ด เรียนไปก็ไม่เข้าสมองอันน้อยนิด เอิ้ก ดังนั้น การดูแลอารมณ์ก่อนเข้าเรียนหรือก่อนอ่านหนังสือมีความสำมะคันมากๆเลยนะก๊ะ ;D



  • สมองทำงานตลอดโดยเฉพาะส่วนจิตใต้สำนึก


เคยเป็นไหมว่าทำไมเวลาอ่านหนังสือในหอชอบหลับทู๊กกกที zzz อ่ะฮ้า นั่นก็เพราะว่ามันเห็นเตียงไง สมองส่วนจิตใต้สำนึกก็สะกดจิตว่า หลับซ้า จบหลับซ้า ก็อาจแก้ได้โดยหามุมดีๆ หรือไปอ่านที่ๆมันหลับไม่ได้ซะ(แต่บางที่มันก็ฝึกพลังลมปราณให้ไม่หลับได้ในช่วงเวลาไฟลนก้น ฮิ)

ห้องรกก็มีผลเหมือนกัน กร๊ากก ทำให้สมองสับสน สงสัยต้องจัดห้องซะแล้วสิ




  • หายใจลึกๆให้สมองได้รับออกซิเจนเต็มที่

เพราะสมองให้พลังงานมากถึง 20% ของพลังงานทั้งหมดจ๊ะ


  • พอแล้วดีกว่า คนเขียนง่วงแย้ว เอิ้กๆ(เดี๋ยวไม่ครบแปด XD)




คริสตจักรเอเฟซัส

แบ่งปันโดย Karuna P. 22 พฤษภาคม 2553 3 ความคิดเห็น

ช่วงนี้ปิดซัมเมอร์แล้ว ก็ว่างๆไม่มีอะไรทำ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน นั่งเล่น นอนเล่น กินเล่น(จนอ้วนพี) เล่นเกมส์เดอะซิมส์ 3 สนุกมาก (นอกเรื่องแล้วXD) อยู่หลายวัน เพิ่งรู้สึกตัวว่าเสียเวลา ฮ่าๆ พักผ่อนมันก็ดีแหละ แต่มันพักพอและ^^ เลยตัดสินใจเก็บกวาดห้องที่ไม่ได้เก็บมาตั้งแต่ม.6 จ๊ากก เก็บเสร็จก็ออกอาการคลุ้มคลั่งค่ะ ติดตามในบลอคของฝน http://dripdrop.exteen.com เป็นบลอคที่มีสาระบ้างไร้สาระบ้างตามอารมณ์จขบ. ฮา โปรโมทเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาจริงจังมั่ง(เหรอ?)

ค่ะ ก็ไม่รู้คนอื่นเป็นแบบฝนมั้ยคะ คือเวลาที่สบายเกินไปจะไม่ค่อยแสวงหาพระเจ้า(หนูขอโทษ><) มันเฉื่อย แต่เวลาที่งานเยอะๆ กิจกรรมหนักหน่วง อ่านหนังสือสอบไฟลุกก้น จะแสวงหาพระเจ้ามากๆ เหมือนมันมีเวลาน้อยเลยพยายามหาเวลา (แต่พอมีเวลากลับละเลยซะงั้น) ช่วงนี้มีเวลามากเลยเป็นอะเกน พอรู้ตัวก็เลยกลับใจ ตัดสินใจมาหาพระเจ้า อ่านพระคัมภีร์เฝ้าเดี่ยว แล้วก็สำนึกได้ หนูผิดไปแล้วค่าพระเจ้า T^T วันนี้เฝ้าเดี่ยว(ฝนเฝ้าเดี่ยวจากมานาประจำวัน)ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคริสตจักรเอเฟซัส เรื่องเดียวกับหนังสือที่ฝนคิดว่าจะเริ่มอ่านพอดีเลย ว้าว! เฝ้าเดี่ยวจบแล้วรีบหยิบหนังสือเรื่อง‘เจ็ดคริสจักร’มาอ่านต่อเลย ซึ่งในบทแรกนั้นก็คือคริสตจักรเอเฟซัสนั่นเอง รู้สึกอยากแบ่งปันให้พี่น้องค่ะ แต่ไม่รู้จะแบ่งปันอย่างไร เอาเป็นสรุปให้ดีกว่า ฝนยังไม่ค่อยมีความรู้ถูกผิดประการใดรบกวนแนะนำด้วยค่ะ เริ่มด้วยพื้นฐานเมืองนี้กันก่อนเลยดีกว่า เมืองเอเฟซัส


เอเฟซัสเป็นเมืองท่าที่สำคัญมากในย่านเอเชียไมเนอร์(ดูจากแผนที่จะเห็นว่าอยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) สามารถปกครองตัวเองได้อย่างอิสระ มีโรงมหรสพและสนามกีฬาอันกว้างใหญ่ซึ่งชาวเมืองเอเฟซัสภูมิใจเป็นอย่างมาก ด้านศาสนาก็มีความเชื่อในหลายศาสนา ศาสนาที่เป็นจุดเด่นของเขาคือ พระวิหารของเทวีอาร์เทมิส(เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณด้วย) ผู้คนมากหลายนับถือเทพเจ้าองค์นี้ สินค้าที่ขึ้นชื่อของเอเฟซัสก็ไม่ใช่อะไรหากเป็นพระอาร์เทมิสองค์เล็กที่ทำด้วยเงิน เป็นสินค้าที่ขายดีอย่างมาก นอกจากนี้เอเฟซัสก็ยังเป็นศูนย์กลางของการศึกษาวิชา “เวทมนต์คาถา”
จึงเห็นได้ว่าคริสจักรเอเฟซัสตั้งอยู่ท่ามกลางความงมงายของผู้คนและท่ามกลางอำนาจมืดนานาชนิด แต่คริสตจักรก็ได้เป็นดวงประทีปที่ฉายแสงท่ามกลางความงมงายของผู้คนในสมัยนั้น
ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์มาถึงเอเฟซัสในราวปีค.ศ. 52 โดยเปโตร ปริสซิลลาและอาควิลลา (ในกิจการ 18:18-22) และเปโตรก็ได้เดินทางประกาศข่าวประเสริฐรอบที่สอง(กิจการ 19:8-10) ในเวลาต่อมาเปาโลถูกจับข้อหาประกาศเรื่องพระคริสต์และถูกนำไปขังไว้ที่กรุงโรม ท่านได้เขียนจดหมายถึงคริสตจักรเอเฟซัสฉบับหนึ่งด้วย
ทิโมธีซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเปาโลก็ได้รับใช้พระเจ้าในคริสตจักรเอเฟซัสอยู่ระยะหนึ่ง(ใน 1 ทิโมธี 1:3)


เมื่อทราบถึงพื้นฐานของเมืองเอเฟซัสแล้ว ก็ไปดูกันในพระธรรมวิวรณ์ที่พูดถึงคริสตจักรเอเฟซัส(อ่านพระธรรมวิวรณ์ 2:1-7 ไปก่อนเลยก็ได้นะค้าบ)

พระคริสต์เป็นทรงเป็นเจ้าของคริสตจักร

“พระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในเบื้องพระหัตถ์เบื้องขวา และดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสดังนี้ว่า...” (วิวรณ์ 2:1)

ดาวทั้งเจ็ด หมายถึง ทูตสวรรค์ประจำคริสตจักร
คันประทีป หมายถึง คริสตจักร
(วิวรณ์ 1:20)

พระเยซูคริสต์เป็นผู้ถือดาวทั้งเจ็ด คำว่า “ถือ” ในภาษาเดิมเน้นถึงการ “จับกุมไว้แน่น” แสดงถึงว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเจ้าของ

นอกจากนี้พระองค์ยังทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นด้วย พระเยซูคริสต์เป็นผู้ตรวจตราดูแลด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เมื่อเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลพระองค์ก็ทรงตักเตือนแนะนำ

พระเยซูคริสต์ทรงมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ในการ “ถือ” และการ “ดำเนิน” อยู่ท่ามกลางคริสตจักรเพราะพระองค์ได้ทรงซื้อคริสตจักรด้วยพระโลหิตของพระองค์ พระคัมภีร์ได้เปรียบเทียบให้เราเห็นว่าพระเยซูคริสต์ทรงอยู่ในฐานะเจ้าบ่าวและคริสตจักรอยู่ในฐานะเจ้าสาวที่บริสุทธิ์ของพระองค์ นอกจากนี้พระเยซูคริสต์ยังทรงเป็นศีรษะของคริสตจักรอีกด้วย (เอเฟซัส 5:23) พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเจ้าของคริสตจักร (คริสตจักร หมายถึง กลุ่มคนที่พระเจ้าทรงเรียกให้มารวมตัวกัน) ไม่ใช่ทูตสวรรค์ หรือพญามาร หรือมนุษย์คนหนึ่งคนใด แต่พระองค์เป็นผู้ที่มีอำนาจอย่างสมบูรณ์ในคริสตจักรแต่องค์เดียว

เราต้องเข้าใจว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเจ้าของคริสตจักร เราวางใจในพระองค์ได้ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์และมั่นคง


เมื่อเห็นถึงฐานะอันชอบธรรมที่พระคริสต์มีต่อคริสตจักรแล้วก็ไปดูสิ่งที่พระองค์ตรัสต่อเลยนะก๊าบ

คำชี้แจงและคำชมเชย
ในข้อที่ 2 “เรารู้จักแนวการกระทำของเจ้า” (เริ่มหมดแรงพิมพ์แล้ว แฮ่กๆ) คำตรัสนี้มีความหมาย 2 ประการ คือ
ก. พระเยซูคริสต์ทรงทราบ
พระเยซูคริสต์ทรงทราบอะไร พระองค์ทรงทราบว่าคริสตจักรเอเฟซัสนั้นทำงานด้วยความเหนื่อยยาก ทำงานหนักจนหมดเรี่ยวแรงที่มี มีความอดทน พร้อมที่จะเผชิญกับความทุกข์ยากนานับประการ และก็ทรงตรัสชมเชยคริสตจักรเอเฟซัสในด้านนี้ด้วย
เมื่อผู้เขียนศึกษาอย่างถี่ถ้วนก็พบว่า คริสตจักรเอเฟซัสเป็นคริสตจักรที่เอาจริงเอาจังมาก สัปดาห์หนึ่งมีการประชุมหลายครั้ง สมาชิกร้อนรนขยันขันแข็ง ช่วยเหลือกัน ทุ่มเทชีวิตในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า ราวกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำงานอย่างไม่หยุดยั้ง
นอกจากนี้ก็ยังเผชิญกับความทุกข์ยากจากโลกภายนอกด้วย จากพ่อค้าขายรูปเคารพที่โมโหเพราะขาดลูกค้าไป เนื่องจากคนกลับใจมาเชื่อพระเจ้า(กิจการ 19:23-40 การจารจลที่เมืองเอเฟซัส) จากพวกที่นับถือผี เวทมต์คาถา และพวกเล่นวิทยากล และเผชิญการถูกกดขี่ข่มเหงอีกมากมาย ทว่าชาวคริสเตียนเอเฟซัสก็มีความอดทนอย่างมาก ไม่ว่าจะเจอความทุกข์เท่าไร พวกเขาก็ไม่ได้ละทิ้งพระคริสต์เลย
คริสเตียนในยุคปัจจุบันก็ควรมีลักษณะเช่นนี้เหมือนคริสเตียนชาวเอเฟซัสด้วย
ข. ชมเชยถึงความเชื่อและการรู้จักพระคัมภีร์
วิวรณ์ 2:2-3,6
คริสเตียนชาวเอเฟซัสมีความรู้เรื่องพระคัมภีร์อย่างทะลุปรุโปร่ง สามารถแยกแยะได้ว่าคำสอนใดเป็นคำสอนจริงหรือคำสอนเท็จ เขาไม่สามารถ “ทนต่อทุรชน” ได้ คือไม่อาจทนฟังคำสอนผิดๆได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ในวิวรณ์ 2:6 เห็นว่าสมาชิกเกลียดชังการกระทำของผู้สอนเทียมเท็จ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีในด้านความเกลียดชัง เน้นว่า เขาเกลียดที่ตัวลัทธิ มิใช่เกลียดชังที่ตัวบุคคล พระเยซูคริสต์เกลียดชังความบาป แต่พระองค์ทรงรักคนบาป ทรงยอมตายเพื่อนคนบาป

พระเยซูคริสต์ทรงตำหนิ
อย่างไรก็ตาม แม้คริสตจักรเอเฟซัสดูราวกับจะเป็นคริสตจักรที่ยอดเยี่ยม แต่...ยังมีบางสิ่งที่คริสตจักรเอเฟซัสยังขาดอยู่ สิ่งนั้นก็คือ!! คริสจักรละทิ้งความรักดั้งเดิมไป ความรักดั้งเดิมนี้คืออะไร อาจเป็นได้ทั้ง ความรักต่อพระเจ้า ความรักต่อพี่น้องคริสเตียน หรือความรักที่มีต่อเพื่อนร่วมโลก(โอวว)
ละทิ้ง ละทิ้ง อะไร อะไร ละทิ้ง ละทิ้ง คือ!! ไม่ยอมยึดไว้ ไม่ใช่ว่าจู่ๆมันก็เหือดหายของมันไปเองนะ ความรักของพระเจ้ายังคงถาวรนิรันดร์ ดังนั้น ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่พระเจ้าแล้วคับพี่น้องง แต่อยู่ที่ตัวคริสเตียนชาวเอเฟซัสต่างหากล่ะ ในอดีตเขามีความรักของพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม แต่ตอนนี้ ไม่เหลืออีกเลย โอวว
ต่อไปครับท่านผู้ชม เป็นสิ่งที่ผู้เขียนได้เขียนไว้นะฮะ
- ความรักที่เรามีต่อพระคริสต์เป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อก่อนสนิทกับพระเยซูคริสต์ แต่เดี๋ยวนี้ห่างเหิน ไปโบสถ์ ก็ไปงั้นๆแหละ ตามพิธี
- ความรักที่เรามีต่อพี่น้องในพระคริสต์เป็นอย่างไรบ้าง
หากละทิ้งความรักดั้งเดิม มันก็จะตรงกันข้ามกับความรักที่ถูกเขียนไว้ใน 1 โครินทร์ 13:4-7
- ความรักที่เรามวลมนุษย์เป็นอย่างไรบ้าง
ประกาศเป็นพยาน ทำสิ่งต่างๆแบบขอไปที แบบเป็นหน้าที่ ไม่ได้ทำด้วยใจ

เปาโลกล่าวว่า แม้จะเผยพระวจนะได้ หรือมีความรู้ก่ายกอง มีความเชื่อขาดสั่งให้ภูเขาเขยื้อนได้ แต่ถ้าไม่มีความรักเป็นพื้นฐานของการกระทำ สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่มีความหมายเลย

ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าความรักสำคัญสุด เป็นตัวผลักดันให้ทุกอย่างเคลื่อนไป ทำให้การดำเนินชีวิตคริสเตียนของเรามีชีวิตชีวาและคนทั้งปวงจะเห็นความรักของเรา


ความรักสำคัญมากเพราะทำให้เกิดผล 3 ประการ
1. การนมัสการมีความหมายมากยิ่งขึ้น
2. ก่อให้มีการปฎิบัติตามด้วยความเชื่อฟัง
**เมื่อพูดถึงความรัก ในพระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวว่า ต้องขึ้นกับ”อารมณ์” หรือ “ความรู้สึก” แต่ขึ้นกับ “การตัดสินใจ” และความ “ตั้งใจ” ถ้าขึ้นกับอารมณ์ก็ไม่แน่นอน ไม่สามารถยึดเป็นหลักได้ เรารักเพราะเราตัดสินใจ “รัก” และตั้งใจที่จะ “รัก”
3. ความรักคือการเสียสละเพื่อผู้อื่น

ความจริงและความรักต้องควบคู่กันไปนะก๊าบบบ

“ความจริงที่ปราศจากความรัก ก็แข็งกระด้างและน่ากลัว
และความรักที่ปราศจากความจริง ก็อ่อนแอและไร้สมรรถภาพ”

พระดำรัสของพระเยซูคริสต์
อ่านได้จาก วิวรณ์ 2:5 ค่ะ (ขอโต๊ดจริงๆหนูจาหมดแรงพิมพ์แล้ว)
มีคำเตือน 3 ประการ
1. ให้ระลึกถึงสภาพเดิม
ระลึกเพื่อเริ่มต้นใหม่ และก้าวหน้าให้สูงกว่าเดิม หากกลับจุดเดิมแล้วอยู่กับที่ก็เท่ากับถอยหลัง
ระลึกถึง ในภาษากรีก หมายถึง ระลึกถึงอยู่เสมอ เป็นปัจจุบัลกาล คือคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอเป็นนิจศีล
2. ให้กลับใจเสียใหม่
ไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าพระคัมภีร์บอกว่าบาป บาปก็คือบาป การกลับใจเป็นสิ่งที่ต้องทำทันที ไม่ต้องรอจนกว่าจะรู้สึกบาปแล้วค่อยสารภาพ
3. ให้ประพฤติเหมือนเดิม
เมื่อรู้ว่าผิดต้องหันหลังกลับแล้วเกินไปในทางที่ถูกต้องทันที การกลับเข้าสู้น้ำพระทัยของพระเจ้าทันที ย่อมเป็นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับชีวิตคริสเตียน
เราอาจจะพลาดพลั้ง ละเลย ไม่ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าในแต่ละวัน ก็ขอให้เรากลับเข้าพระองค์ตามเดิม เราอาจจะพลาดเป้าในการเรียน เราอาจจะพลาดเป้าในการประกอบอาชีพหรือในการปรนนิบัติผู้อื่น ก็ขอให้เรากลับใจเสียใหม่
^
ย่อหน้านี้โดนใจตัวเองมาก ขอก๊อปทั้งดุ้นเลย

พระดำรัสเตือน
ในพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเยซูคริสต์ไม่เพียงแต่สั่ง แต่พระองค์ยังหนุนใจและประทากำลังแก่เราอีกด้วย
แต่ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ยังไม่กลับใจใหม่ พระเยซูคริสต์ผู้เป็นเจ้าของก็จะจัดการกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรารู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก ดังนั้นคริสตจักรของพระองค์จะต้องมีความรัก
น่าเสียดายที่คริสตจักรเอเฟซัสไม่ยอมรับคำเตือนของพระเยซูคริสต์ พวกเขาไม่ยอมกลับใจ คันประทีปของคริสตจักรจึงถูกยกออกไป ในเวลาต่อมาคริสจักรเอเฟซัสและเมืองเอเฟซัสก็ถูกลบออกไปสิ้น ปัจจุบันนี้เป็นเพียงเมืองเล็กๆที่ซบเซา และเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง มีคริสเตียนอยู่ในเมืองเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

พระสัญญา
พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ผู้ใดมีชัยชนะ เราจะให้ผู้นั้นกินผลจากต้นไม้แห่งชีวิตที่อยู่ในอุทยานสวรรค์แห่งพระเจ้า” (วิวรณ์ 2:7)
ผู้ที่กลับใจใหม่และประพฤติตามอย่างเดิม พระเจ้าจะประทานให้เขาได้รับผลอันอมตนิรันดร์
ผลของต้นไม้แห่งชีวิตในอุทยานสวรรค์ของพระเจ้ากำลังรอเราอยู่ ซึ่งพระองค์ทรงเตรียมไว้สำหรับคนของพระองค์

จบ(แฮ่กๆๆ)



ไม่มีปิดท้ายอันสวยงามแล้วล่ะค่า หมดแรงอย่างจริงจัง

ไม่คิดเลยว่าจะยากขนาดนี้ อ่านแป๊ปเดียวก็จบแล้ว แต่การเขียนนี่สิ... กลัวทั้งเขียนสื่อความหมายผิด เขียนไม่เข้าใจ เขียนน่าเบื่อ ฯลฯ มันยากจริงๆ ไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้ แฮ่ ไม่กล้าเขียนเป็นสำนวนตัวเองมากด้วย กลัวบิดเบือน แง๊ว(แต่หลังๆสังเกตได้ว่าเริ่มมีสำนวนแปลกๆ เพราะมันล้าแย้ววว บ๊องไปแล้วค่ะ) ถ้ามีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ(อย่างกับรายงาน อิอิ)

และไม่คิดว่าจะยาวววววขนาดนี้ด้วย

ถ้าได้อ่านจากตัวหนังสือจริงจะดีกว่านี้ค่ะ ฝนไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ผู้เขียนเขาสุดยอดจริงๆ ไม่เพียงแต่ได้ข้อมูล แต่ได้การนำไปใช้อีกด้วย ข้อคิดสอดแทรกอีก ขอคารวะ 3 จอก

อ้อ หนังสือเรื่องชื่อ เจ็ดคริสตจักร อภิทนันการจากพี่กวางค่ะ ตั้งแต่ค่ายปีที่แล้ว(อูยย ดองไว้นาน) เคยอ่านไปบทเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ขึ้นหิ้งไปเลย(ไม่ได้แตะนั่นเอง) แล้วอยู่ๆก็มีแรงบันดาลใจอยากปัดฝุ่นมาอ่านตั้งแต่แรกใหม่ซะงั้นละค่ะ



สุดท้าย มีสิ่งใดแนะนำขอน้อมรับไว้ด้วยความยินดีค่ะ ติชมได้ แนะนำได้ ความคิดเห็นของท่านมีคุณค่าสำหรับข้าพเจ้าจริงๆ

ps. credit: เจ็ดคริสตจักร สนพ.อมตธรรมเพื่อชีวิต

http://www.bibleatlas.org

วิดีโอเรื่องสั้น ต่อกรกับความบาป

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 20 พฤษภาคม 2553 1 ความคิดเห็น

ช่วงนี้อย่าเครียดกัน เรามาทำสงครามกับความบาปกันเถอะ
...................................................................................06/01/2006

ภาพ CELEBRATION OF HOPE CAMP 2010

แบ่งปันโดย KU Christian 14 พฤษภาคม 2553 1 ความคิดเห็น




ก่อนที่พวกเราจะไปคริสเตียนแคมป์ในปีนี้
ชมวิดีโอแล้วให้เราคาดหวังกับแคมป์นี้ด้วยกันนะครับ


Trailer - KU จะไปค่าย

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 21 เมษายน 2553 0 ความคิดเห็น

จากค่ายปีที่แล้ว ปีนี้เราจะสร้างตำนานอีกครั้ง


วิดีโอเรื่องสั้น ก่อนสอบ

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 28 กุมภาพันธ์ 2553 0 ความคิดเห็น

ก่อนสอบอย่าลืมพึ่งพาพระเจ้านะคร้าบ


...................................................................................22/09/2005

ภาพ งานโฮมเกษตร 2010

แบ่งปันโดย KU Christian 26 กุมภาพันธ์ 2553 0 ความคิดเห็น



Photobucket

คลิปวิดีโอ KU New Year Party 2010

แบ่งปันโดย KU Christian 09 กุมภาพันธ์ 2553 0 ความคิดเห็น


ขนาดไฟล์ทั้งหมด 4.39 Gb จำนวน 35 คลิป

Video Quality : Format MOD (MPEG2) 720x576 pixel Bit rate 8900 Kbps Frame rate 25fps

Audio Quality : Format AC-3 Bit rate 384 Kbps Sampling rate : 48 KHz



VTR งานแต่งงานต้น&น้อย +ไม่เคยไม่รัก+

แบ่งปันโดย Manat / マーナット 01 กุมภาพันธ์ 2553 0 ความคิดเห็น



บล็อกนี้ สร้างขึ้นเพื่อสื่อสาร หนุนใจ และแบ่งปันสิ่งดีแก่กัน เพื่อให้เป็นพรแก่พี่น้อง KU และพี่น้องทุกๆคนครับ/คะ